ขั้นตอนการปลูกพืชระบบปิด
ชนิดใช้แสงเทียมทั้งระบบ

  1. เพาะเมล็ด 7 วัน ลักษณะการเพาะคล้ายผักไฮโดรโพนิกส์
  2. ลงปลูกนับไปอีก 20 วัน เก็บเกี่ยวผลผลิตได้
  3. น้ำที่ใช้ดูแลผัก ต้องเป็นน้ำกรอง RO เป็นน้ำที่สะอาดกว่าที่ใช้ดื่ม
  4. ไฟเปิดทุกวันโดยใช้ LED Grow Lightสามารถเปิดไฟให้พืชได้ 16 ชม.ต่อวัน ซึ่งจะทำให้ผักสลัดโตไวกว่าการปลูกด้วยแสงแดดปกติ
  5. กระบวนการทำงาน เครื่องวัดระดับความชื้น วัดอุณหภูมิรอบห้อง วัดระดับก๊าซออกซิเจนภายในห้อง และสามารถจ่ายน้ำ ปุ๋ย ได้โดยอัตโนมัติ

ข้อดีที่พบ

  1. ประหยัดพื้นที่ ปลูกได้จำนวนเยอะ และสามารถใช้แสงเร่งสารกระตุ้นพืชได้ เช่น ทำให้ไนเตรตต่ำลง ให้วิตามินเพิ่มขึ้น เพื่อส่งไปวิจัยต่อ
  2. ผลผลิตที่ได้ค่อนข้างแน่นอน ปลูกผัก 100 ต้น ผลผลิตที่ได้ออกมาสม่ำเสมอและสมบูรณ์กว่า 99 เปอร์เซ็นต์
  3. ปัญหาเรื่องโรค แมลง ไม่มี เพราะเป็นโรงเรือนระบบปิด ก่อนเข้าออกทุกครั้งต้องมีการทำความสะอาดฆ่าเชื้อ มีห้องแอร์เชาเวอร์ ห้ามสิ่งปฏิกูลเข้าไปได้ เพราะจะทำให้ติดเชื้อทั้งระบบ
  4. น้ำสำคัญมาก เพราะว่าตอนนี้ประเทศไทยกำลังประสบวิกฤตภัยแล้ง แต่ Plant Factory สามารถรีไซเคิลน้ำปลูกได้ 4 รอบ หรือ 4 เดือน
  5. ลดระยะเวลาการปลูกให้สั้นลง จากเดิมปลูกสลัดในดิน ใช้เวลา 60-75 วัน แต่ Plant Factory ใช้ระยะปลูกเพียง 30 วัน หรือถ้าเป็นสมุนไพรสามารถสร้างคุณค่าได้มากเลยทีเดียว

 

ข้อแนะนำการทำฟาร์มระบบปิด

การเลือกพืชปลูกควรเลือกพืชที่มีราคาสูง  หรือพืชสมุนไพร ที่จำเป็นต้องควบคุมสารเฉพาะ  ใช้ระยะเวลาปลูกไม่นาน เนื่องจากต้นทุนระบบค่อนข้างสูง จะทำให้จุดคุ้มทุนนาน

คำนวณต้นทุน

ผักสลัดกรีนโอ๊ค  ราคากิโลกรัมละ 120-150 บาท

ตู้ปลูกผักขนาด 96 หลุม  35 วัน เก็บผลผลิตได้ 20  กิโลกรัม  เป็นเงิน 2,400 บาท

1 ปี มีรายได้  28,800 บาท  1 ปี 5 เดือน คืนทุน ต่อ  1 ตู้

เคล  ราคากิโลกรัมละ 500 บาท

ตู้ปลูกผักขนาด 96 หลุม  40-60  วัน เก็บผลผลิตได้ 20  กิโลกรัม  เป็นเงิน 10,000 บาท

1 ปี มีรายได้  60,000 บาท  4 เดือน คืนทุน ต่อ  1 ตู้

ดาวน์โหลดเอกสารวิธีปลูกได้ที่นี่

สนใจทำฟาร์มระบบปิด

สอบถามรายละเอียดได้ทางไลน์