10 เทคนิคการเพาะต้นกล้า

10 เทคนิคการเพาะต้นกล้า

วิธีการเพาะเมล็ดพันธุ์นั้นสามารถทำได้หลายวิธี อาจจะเพาะในถาดก่อนหรือสามารถหว่านเมล็ดลงแปลงเลยก็ได้ การหว่านเมล็ดพันธุ์ลงแปลงเลยนั้น อัตราการงอกอาจจะไม่ดีเท่าที่ควร แม้กระทั้งเมื่อต้นกล้างอกมาแล้วก็อาจจะต้องเจอกับอากาศร้อนจัด ฝนตก หรืออากาศหนาว ทำให้ต้นกล้าที่กำลังจะโตนั้นพาลตายเอาง่าย ๆ สำหรับขั้นตอนการเพาะเมล็ดสำหรับผู้ที่เริ่มต้นนั้น ผมแนะนำให้เริ่มเพาะในถาดก่อน เพื่อให้เมล็ดที่งอกออกมานั้นแข็งแรงพอสมควรก่อนที่เราจะนำลงแปลง นั้นหมายถึงเรามีโอกาสคัดต้นที่อ่อนแอออกและเลือกต้นที่แข็งแรงไว้สำหรับปลูกต่อไปเท่านั้น การดูแลหลังจากนี้สามารถทำได้ง่ายกว่าเพราะผ่านการคัดมาแล้วก่อนที่จะนำไปปลูกกลางแจ้ง และเราสามารถประยุกต์ใช้ได้กับเมล็ดพันธ์อะไรก็ได้ ว่าแล้วเริ่มกันเลย

1.เลือกสถานที่ในการเพาะ ในที่นี้อาจจะเป็นโรงเรือนที่มีแสงแดดส่องถึงในตอนเช้า เลือกสถานที่ให้ไกลจากสัตว์เลี้ยง เช่น เป็ด,ไก่ หรือถ้าจำเป็นจริง ๆ ต้องเลี้ยงสัตว์ไปด้วยก็อาจหาตาข่ายมาล้อมสถานที่เพาะก็ได้ และเป็นที่อากาศถ่ายเทสะดวก

2.เตรียมเมล็ดพันธุ์ ดิน และถาดเพาะ ถาดในที่นี้อาจเป็นหลุม กะละมังเล็ก ถาดปลูก หรือถาดกระดาษใส่ไข่ก็ได้แล้วแต่สะดวก ตรวจสอบด้วยว่าสามารถระบายน้ำได้ดี เมล็ดพันธ์หาซื้อได้ตามร้านเกษตรภัณฑ์ ดูว่าเป็นชนิดที่ต้องแช่น้ำก่อนหรือเพาะได้เลยและใช้เวลาปลูกจนถึงเก็บเกี่ยวนานเท่าใด สุดท้ายดินอาจจะซื้อจากร้านขายต้นไม้หรือจะทำดินสำหรับเพาะเองก็ได้ โดยส่วนผสมคือ

  • ดิน 1 ส่วน
  • แกลบดำ 1 ส่วน
  • ขุยมะพร้าวละเอียด 1 ส่วน

คลุกเคล้าให้เข้ากันจากนั้นก็เตรียมดินใส่ถาดให้เรียบร้อย

3.การหยอดเมล็ดพันธุ์ โดยผมจะใช้วิธีเพาะในถาดปลูกแบบรวม ๆ ก่อนที่จะย้ายลงถาดหลุม ใช้วิธีการโรยเมล็ดลงในถาดปลูกโดยไม่ให้กระจุกหรือกระจายตัวมากเกินไป ใช้มือตบเบา ๆ ให้เมล็ดติดดินแล้วใช้ดินกลบบาง ๆ รดน้ำเป็นฝอยพอชุ่มวางไว้ในที่อากาศถ่ายเทสะดวก และควรเขียนป้ายกำกับวันที่เริ่มเพาะเพื่อนับเวลาเก็บเกี่ยว

เคล็ดลับ การรดน้ำให้เป็นฝอย เราอาจนำขวดมาเจาะรูด้วยเข็ม จะได้ลักษณะน้ำเป็นฝอย ๆ

4.วางไว้ในที่ร่มมีแสงสว่างส่องถึง รดน้ำเช้าเย็นพอชุ่ม ประมาณ 20-24 ชั่วโมงเมล็ดจะเริ่มงอกบ้างแล้ว บางชนิดอาจใช้เวลา 24-48 ชั่วโมงกว่าจะงอก

5.ปล่อยให้โดนแสงแดดอ่อน ๆ ในตอนเช้าช่วง 06.00-10.00 น. ซึ่งแสงในตอนเช้านี้จะเหมาะต่อการเจริญเติบโตของพืช การดูแลเรื่องน้ำก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นเดียวกัน โดยตรวจสอบดินให้มีความชื้นสม่ำเสมอแต่ไม่เปียกโชกเกินไป

6.ต้นกล้าจะเริ่มงอกแล้วเมื่อผ่านไป 4-5 วัน  ถึงขั้นตอนนี้อาจให้ปุ๋ยน้ำได้แต่ถ้าไม่มีก็ไม่เป็นไร

7.วันที่ 6-7 ทำการย้ายกล้าลงถาดหลุม ให้คัดต้นที่อ่อนแอออก เหลือไว้เฉพาะต้นที่แข็งแรง นำดินใส่ถาดหลุมให้เรียบร้อย วิธีคือเรานำช้อนแกงมาโดยใช้หางช้อนขุดดินส่วนรากขึ้นมา แล้วใช้มือเกลี่ยดินให้เหลือแต่ราก การจับต้นกล้าควรระมัดระวังเพื่อไม่ให้ต้นและรากขาดออกจากกัน วางรากไว้กลางหลุมแล้วใช้ไม้จิ้มฟันกดส่วนรากลงไปในหลุมให้ต้นตั้งตรง ทำจนเสร็จครบ 1 ถาด รดน้ำพอชุ่มทิ้งไว้ 1 คืน และรดน้ำเช้าเย็นพอชุ่มต่อจนผ่านสัปดาห์ที่ 2

เคล็บลับ การย้ายกล้าควรทำตอนเย็น เพราะอากาศจะได้ไม่ร้อนและต้นกล้าจะได้ฟักฟื้นในตอนกลางคืน ส่วนเมล็ดแบบเคลือบสามารถนำมาเพาะบนถาดหลุมได้เลยเพราะเปอร์เซ็นต์การงอกจะสูงกว่าแบบไม่เคลือบ

8.นำออกรับแสง เข้าสู่สัปดาห์ที่ 3 จะเริ่มมีใบจริงออกมาแล้ว ตอนนี้สามารถนำออกมารับแดดได้ทั้งวันโดยมีผ้าแสลนคลุมด้านบน ส่วนผมนั้นเพาะเมล็ดสลัดเรคโคลอน ,เรดโอ๊ด เมื่อนำมาโดนแดดในช่วงนี้ใบจะเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงตามสายพันธุ์ที่ปลูก ให้ปุ๋ยน้ำวันเว้นวันสลับกับการให้น้ำเปล่า ปลายสัปดาห์ที่ 3 ก็สามารถนำกล้าผักลงสู่แปลงหรืออาจนำลงกระถางก็ได้ครับ

9.ย้ายลงแปลง ปลายสัปดาห์ที่ 3 ทำการย้ายกล้าลงแปลง โดยเราเตรียมแปลงให้พร้อมทำเป็นแถวขุดหลุมไว้กว้างพอสำหรับต้นกล้า ใช้หางช้อนจิ้มต้นกล้าออกจากหลุมนำไปลงในแปลง ใช้ดินกลบพอประมาณเพื่อพยุงต้นไม่ให้ล้มเป็นอันเสร็จ การจับต้นกล้าควรระมัดระวังเพื่อไม่ให้ต้นและรากขาดออกจากกัน รดน้ำเช้าเย็นพอชุ่มต่อ

10.ดูแลอย่างใกล้ชิดและรอวันเก็บเกี่ยว โดยให้ปุ๋ย 1-2 ครั้ง/อาทิตย์ กำจัดวัชพืชและนับเวลาจนถึงเก็บเกี่ยว จากนี้ก็ดูแลเรื่องแมลงรบกวนโดยใช้น้ำหมักไล่แมลง ส่วนสลัดที่ผมปลูกใช้เวลา 50-60 วันก็สามารถเก็บได้ เพียงเท่านี้เราก็มีผักแสนอร่อยไว้รับประทานแล้วครับ

และนี่ก็เป็น10 เทคนิคการเพาะต้นกล้านำมาไว้ให้คุณโดยเฉพาะ

ทิ้งคำตอบไว้

Please enter your comment!
Please enter your name here